ก้าวร้าว...ไวเรื่องเพศ
:: สำหรับครู
หน้า 1 จาก 1
ก้าวร้าว...ไวเรื่องเพศ
** "ก้าวร้าว...ไวเรื่องเพศ...ขาดความรับผิดชอบ" คุณลักษณะ(ต้องห้าม)เด็กไทยในศตวรรษที่ 21
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.52 กรุงเทพมหานคร ร่วมกับบริษัท รักลูกกรุ๊ปฯ ผู้นำทางด้านสื่อและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว เปิดแถลงข่าวการจัดงาน Bangkok Kids’ Learning Expo 2009 ภายใต้แนวคิด “ครบเครื่องเรื่องเรียนรู้สู่โลกศตวรรษที่ 21” พร้อมกันนี้ได้เผยผลการสำรวจความคิดเห็น เรื่องคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 โดยทำการเก็บสุ่มกลุ่มตัวอย่าง จากพ่อแม่ไทยในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 1,000 คน ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน 38% และธุรกิจส่วนตัว 28% มีรายได้ส่วนใหญ่ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป พบว่า
พฤติกรรมของเด็กสมัยนี้ที่พ่อแม่เป็นห่วงมากที่สุด 3 เรื่องหลักคือ 1.พฤติกรรมการแสดงออกที่ก้าวร้าวรุนแรง (47%) 2.ความประพฤติทางเพศไม่เหมาะสม มีการเรียนรู้เรื่องเพศเร็วกว่าวัยอันควร (31%) และ 3.การขาดความรับผิดชอบ ไม่สู้งาน หนักไม่เอาเบาไม่สู้ (24%) ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่พ่อแม่คิดว่าเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กมีพฤติกรรมดังกล่าว คือ ความอ่อนแอของสถาบันครอบครัว (63%) อาทิเช่น พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ลูก การทะเลาะเบาะแว้งภายในครอบครัว ฐานะทางการเงินไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย เป็นต้น และเหตุผลสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ อิทธิพลจากสื่อต่างๆ รอบตัวเด็ก (53%) ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เด็กอยากลอง อยากเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ เพื่อให้ตัวเองได้บรรลุในสิ่งที่ต้องการ
ผลสำรวจยังพบอีกว่า ในส่วนของสถาบันครอบครัวพฤติกรรมที่พ่อแม่อยากปลูกฝังให้เด็กมากที่สุด มีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่องหลักๆ คือ 1.ความมีสติ รู้จักตัวเอง เห็นคุณค่าของตัวเอง (56%) 2.การมีคุณธรรม ยึดมั่นในศีลธรรม จริยธรรมที่ดี (53%) และ 3.มีทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี (22%) ซึ่งการที่จะทำให้เด็กมีพฤติกรรมเหล่านี้ได้ นอกจากการปลูกฝังจากสถาบันครอบครัวแล้ว สถาบันการศึกษาก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยไปกว่าสถาบันครอบครัว ซึ่งได้แก่โรงเรียนนั่นเอง และในการที่โรงเรียนจะช่วยปลูกฝังในเรื่องเหล่านี้ได้นั้น
พ่อแม่ส่วนใหญ่คิดว่า รัฐบาลควรหันมาให้ความสำคัญกับการศึกษาในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาคุณภาพของครูและโรงเรียนให้มีศักยภาพเท่าเทียมกัน (56%) ด้านเกณฑ์มาตรฐานการวัดผลทางการศึกษาที่มีความเท่าเทียมกัน (53%) และด้านแนวการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง (22%) ซึ่งต้องมีผู้ชี้แนะที่ดี เพื่อให้เด็กได้รู้จักเลือกกรับข้อมูลความรู้ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมยิ่งขึ้น
ที่มา - สยามรัฐ วันที่ 13 กรกฎาคม 2552
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.52 กรุงเทพมหานคร ร่วมกับบริษัท รักลูกกรุ๊ปฯ ผู้นำทางด้านสื่อและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว เปิดแถลงข่าวการจัดงาน Bangkok Kids’ Learning Expo 2009 ภายใต้แนวคิด “ครบเครื่องเรื่องเรียนรู้สู่โลกศตวรรษที่ 21” พร้อมกันนี้ได้เผยผลการสำรวจความคิดเห็น เรื่องคุณลักษณะเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 โดยทำการเก็บสุ่มกลุ่มตัวอย่าง จากพ่อแม่ไทยในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 1,000 คน ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน 38% และธุรกิจส่วนตัว 28% มีรายได้ส่วนใหญ่ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป พบว่า
พฤติกรรมของเด็กสมัยนี้ที่พ่อแม่เป็นห่วงมากที่สุด 3 เรื่องหลักคือ 1.พฤติกรรมการแสดงออกที่ก้าวร้าวรุนแรง (47%) 2.ความประพฤติทางเพศไม่เหมาะสม มีการเรียนรู้เรื่องเพศเร็วกว่าวัยอันควร (31%) และ 3.การขาดความรับผิดชอบ ไม่สู้งาน หนักไม่เอาเบาไม่สู้ (24%) ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่พ่อแม่คิดว่าเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กมีพฤติกรรมดังกล่าว คือ ความอ่อนแอของสถาบันครอบครัว (63%) อาทิเช่น พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ลูก การทะเลาะเบาะแว้งภายในครอบครัว ฐานะทางการเงินไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย เป็นต้น และเหตุผลสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ อิทธิพลจากสื่อต่างๆ รอบตัวเด็ก (53%) ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เด็กอยากลอง อยากเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ เพื่อให้ตัวเองได้บรรลุในสิ่งที่ต้องการ
ผลสำรวจยังพบอีกว่า ในส่วนของสถาบันครอบครัวพฤติกรรมที่พ่อแม่อยากปลูกฝังให้เด็กมากที่สุด มีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่องหลักๆ คือ 1.ความมีสติ รู้จักตัวเอง เห็นคุณค่าของตัวเอง (56%) 2.การมีคุณธรรม ยึดมั่นในศีลธรรม จริยธรรมที่ดี (53%) และ 3.มีทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี (22%) ซึ่งการที่จะทำให้เด็กมีพฤติกรรมเหล่านี้ได้ นอกจากการปลูกฝังจากสถาบันครอบครัวแล้ว สถาบันการศึกษาก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยไปกว่าสถาบันครอบครัว ซึ่งได้แก่โรงเรียนนั่นเอง และในการที่โรงเรียนจะช่วยปลูกฝังในเรื่องเหล่านี้ได้นั้น
พ่อแม่ส่วนใหญ่คิดว่า รัฐบาลควรหันมาให้ความสำคัญกับการศึกษาในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาคุณภาพของครูและโรงเรียนให้มีศักยภาพเท่าเทียมกัน (56%) ด้านเกณฑ์มาตรฐานการวัดผลทางการศึกษาที่มีความเท่าเทียมกัน (53%) และด้านแนวการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง (22%) ซึ่งต้องมีผู้ชี้แนะที่ดี เพื่อให้เด็กได้รู้จักเลือกกรับข้อมูลความรู้ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมยิ่งขึ้น
ที่มา - สยามรัฐ วันที่ 13 กรกฎาคม 2552
thongman- บรรลุเทพ
- จำนวนข้อความ : 2638
Registration date : 06/02/2008
:: สำหรับครู
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ